Privacy Policy

นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัท ฟิวเจอร์ เมคเกอร์ จำกัด นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัท ฟิวเจอร์ เมคเกอร์ จำกัด (“บริษัท”) ในฐานะบริษัท ตระหนักถึงความรับผิดชอบในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บจากลูกค้าและบุคคลอื่นด้วยความใส่ใจ ระมัดระวัง และสังเกตการณ์อยู่เสมอ จึงได้จัดทำและเผยแพร่นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) และบริษัทมีการพัฒนาการจัดการและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง

บริษัท ฟิวเจอร์ เมคเกอร์ จำกัด

ก. นโยบายความเป็นส่วนตัว
ข. การจัดการวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ค. คุกกี้

 

ก. นโยบายความเป็นส่วนตัว

1. การปฏิบัติตามกฎหมายและแนวทางแนะนำที่เกี่ยวข้อง

บริษัทยืนยันว่าบริษัทได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ.”) และ กฎหมายอื่นๆ รวมถึงคำสั่งที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บ ประมวลผล และจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมตามพ.ร.บ.กำหนด

“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้ รวมถึงข้อกำหนดอื่นๆของบริษัท หมายถึง เฉพาะบุคคลที่ข้อมูลส่วนบุคคลระบุตัวตนได้ไม่ว่าทางตรงและทางอ้อมเท่านั้น

2. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล

บริษัทมีการระบุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล”) และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว รายละเอียดเป็นไปตามการจัดการวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (อ้างอิงถึงข้อ ข การจัดการวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล)

3. การแก้ไขการจัดการวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจมีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นตามความเหมาะสม โดยบริษัทจะชี้แจงท่านโดยการแจ้งผ่านช่องทางสาธารณะทางเว็บไซต์ของบริษัท หรือช่องทางอื่นๆตามความเหมาะสม

4. การจัดการข้อมูลตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล

บริษัทมีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามความจำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล กรณีมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่น บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรืออ้างอิงฐานทางกฎหมายอื่นๆตามพ.ร.บ.กำหนด

5. ฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่

(i) ฐานสัญญา เมื่อการประมวลผลข้อมูลมีความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทตาม พ.ร.บ.มาตรา 24(3)

(ii) ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม เมื่อบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลมีความชอบธรรมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตาม พ.ร.บ.มาตรา 24(5)

(iii) ฐานปฏิบัติตามกฎหมาย เมื่อบริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายตาม พ.ร.บ.มาตรา 24(6)

(iv) ฐานความยินยอม เมื่อมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายในการขอความยินยอมก่อนการประมวลผลข้อมูลตาม พ.ร.บ.มาตรา 19

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัททุกเมื่อผ่านทางช่องทางที่ได้แจ้งในขณะที่บริษัทขอความยินยอมจากท่าน อย่างไรก็ตามการถอนความยินยอมจะไม่มีผลต่อการประมวลผลข้อมูลที่ได้ทำขึ้นก่อนมีการถอนความยินยอม

6. การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสมและเป็นไปตาม พ.ร.บ.

7. ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอ่อนไหว

บริษัทอาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอ่อนไหวตาม พ.ร.บ.มาตรา 26 กำหนด ซึ่งบริษัทจะทำการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อนหรือขณะการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอ่อนไหวดังกล่าว อย่างไรก็ตามบริษัทอาจไม่ทำการขอความยินยอมหากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอ้างอิงตามข้อยกเว้นดังต่อไปนี้

(i) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม

(ii) เป็นการดำเนินกิจกรรมโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีการคุ้มครองที่เหมาะสมของมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเมือง ศาสนา ปรัชญา หรือสหภาพแรงงาน ให้แก่สมาชิก ผู้ซึ่งเคยเป็นสมาชิก หรือผู้ซึ่งมีการติดต่ออย่างสม่ำเสมอกับมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กร ที่ไม่แสวงหากำไรตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวโดยไม่ได้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นออกไปภายนอกมูลนิธิสมาคม หรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรนั้น

(iii) เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

(iv) เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ

– เวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ การประเมินความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ การให้บริการด้านสุขภาพหรือด้านสังคม การรักษาทางการแพทย์ การจัดการด้านสุขภาพ หรือระบบและการให้บริการด้านสังคมสงเคราะห์ ทั้งนี้ ในกรณีที่ไม่ใช่การปฏิบัติ ตามกฎหมายและข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ประกอบอาชีพหรือวิชาชีพหรือผู้มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไว้เป็นความลับตามกฎหมายต้องเป็นการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์

– ประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร หรือการควบคุมมาตรฐานหรือคุณภาพของยา เวชภัณฑ์ หรือเครื่องมือแพทย์ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมและเจาะจงเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามหน้าที่หรือตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

– การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือการคุ้มครองทางสังคมซึ่งการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็นในการปฏิบัติตามสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

– การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น ทั้งนี้ต้องกระทำเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้นและได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

– ประโยชน์สาธารณะที่สาคัญโดยได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

8. ความถูกต้องและระยะเวลาการจัดเก็บของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันภายใต้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ที่จำเป็น บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่บริษัทดำเนินความสัมพันธ์กับท่าน และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้ง ปฏิบัติตาม หรือ ใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย รวมถึงการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของบริษัท บริษัทขอชี้แจงว่าการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลหลังสิ้นสุดระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจะทำได้เมื่อเป็นกรณีจำเป็นเท่านั้น เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหมดความจำเป็น บริษัทจะทำลายหรือลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ

9. มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทได้กำหนดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมและเข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ

10. การควบคุมบุคลากรของบริษัท

บริษัทมีการควบคุมดูแลการปฏิบัติงานบุคลากรของบริษัทและมีการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่เสมอ

11. การควบคุมบุคคลที่สาม

กรณีบริษัทมีการว่าจ้างหรือมอบหมายให้บุคคลที่สามประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดหรือบางส่วน ในการส่ง ดูแล และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลนั้น บริษัทมีการคัดเลือกบุคคลที่สามที่สามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม และมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ รวมถึงมีการรักษาความลับของข้อมูลตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของบริษัท โดยมีการทำสัญญาเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อควบคุมบุคคลที่สามดังกล่าว

12. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลแก่บุคคลที่สามดังต่อไปนี้ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุในนโยบาย และเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจ และพัฒนาการให้บริการของบริษัท โดยอยู่ภายใต้พ.ร.บ.กำหนด บริษัทจะชี้แจงและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่จำเป็นตามพ.ร.บ.กำหนด

– บริษัทแม่

– บริษัทในกลุ่ม บริษัทในเครือ

– บริษัทประกัน

– ตัวแทน ผู้ให้บริการ และ/หรือผู้รับจ้างช่วง สำหรับการดำเนินงานใดๆ เช่น บริษัทขนส่ง บริษัทซ่อมแซมหรือรักษาระบบ บริษัทจัดหาข้อมูล ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมายและภาษี เป็นต้น

– หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย

13. การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

ในการเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเปิดเผยหรือโอนไปยังต่างประเทศต่อไปนี้ และประเทศผู้รับดังกล่าวอาจไม่มีการมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

– ประเทศจีน

เมื่อมีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทจะดำเนินการตามมาตรการที่จำเป็น เช่น จัดทำหนังสือข้อตกลงระหว่างบริษัทในเครือธุรกิจ หรือ สัญญาประมวลผลข้อมูลตามความเหมาะสม เป็นต้น เพื่อให้บริษัทผู้รับข้อมูลมีความรับผิดชอบในการใช้และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายและเป็นธรรม เพื่อสอดคล้องกับพ.ร.บ. หากประเทศผู้รับไม่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านต้องการได้รับสำเนาเอกสารที่เกี่ยวกับมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อ บริษัททางช่องทางที่ระบุด้านล่างของนโยบายฉบับนี้

14. ข้อกำหนดสำหรับบุคคลที่สามในต่างประเทศ

บริษัทจะมีการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปยังบุคคลที่สามในต่างประเทศ เว้นแต่กรณีต่อไปนี้

(i) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย (ii) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือ เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น (iii) เป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (iv) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือบุคคลอื่น เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้ (v) เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

15. คำรับรองการบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทขอรับรองว่าการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปตามความเหมาะสม และ เป็นไปตามพ.ร.บ.รวมถึงแนวทางแนะนำอื่นๆ ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลที่สาม

16. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้

– สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้แก่บริษัท ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

– สิทธิขอรับสำเนาเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม

– สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิเข้าถึงสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

– สิทธิในการขอแก้ไขและลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ด้วยเหตุตามที่กฎหมายกำหนด

– สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่านด้วยเหตุตามที่กฎหมายกำหนด

– สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายกำหนด

– สิทธิในการให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัทได้ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นได้ตามที่กฎหมายกำหนด

– สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้

หากท่านต้องการใช้สิทธิดังที่กล่าวมาข้างต้น โปรดติดต่อสอบถามตามช่องทางติดต่อทางช่องทางที่ระบุด้านล่างของนโยบายฉบับนี้

การแก้ไขนโบยาย

กรณีนโยบายฉบับนี้มีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงภายใต้กฎหมายหรือแนวทางที่เหมาะสม บริษัทจะชี้แจงให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทหรือทางอีเมลล์ของท่าน (หากจำเป็น)

ช่องทางการติดต่อ:

บริษัท ฟิวเจอร์ เมคเกอร์ จำกัด (สำนักงานใหญ่)

298/1 ซ.วัดอนงค์ ถ.สมเด็จเจ้าพระยา แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพฯ 10600

อีเมลล์: marketing@futuremakers.co.th

หมายเลขโทรศัพท์: 02-114-3408

 

ข. การจัดการวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลลูกค้า

 

1.วัตถุประสงค์ในการประมวลผล

・ เพื่อจัดทำสัญญาสำหรับผลิตภัณฑ์ และการจัดการหลังการทำสัญญา รวมถึงการจัดการเรื่องการให้บริการหลังการขาย

・เพื่อขายผลิตภัณฑ์และให้บริการ

・เพื่อขนส่งผลิตภัณฑ์

・เพื่อออกผลิตภัณฑ์ใหม่

・เพื่อลงทะเบียนหรือเพิกถอนสมาชิก

・เพื่อให้คำปรึกษา ติดต่อ และตอบคำถาม

・เพื่อติดต่อ สื่อสาร เกี่ยวกับการจัดการผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาหรือผลิตภัณฑ์ที่ถูกส่งคืน

・เพื่อประกาศหรือแจ้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ หรือ การจัดกิจกรรม

・เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ และจัดทำแบบสอบถามความพึงพอใจ

・เพื่อแจ้งรายละเอียดผลิตภัณฑ์

・เพื่อติดต่อสื่อสารเกี่ยวกับธุรกิจ หรือการจัดอบรม

・เพื่อควบคุมการเข้าอาคารและสถานที่ ตลอดจนเพื่อสังเกตการณ์ ป้องกัน ขัดขวาง และ (หากจำเป็น) ตรวจสอบการเข้าอาคารและสถานที่โดยมิได้รับอนุญาต เพื่อรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารและสถานที่ของบริษัทผ่านระบบกล้องวงจรปิด

・เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ หรือคำสั่งที่ออกโดยหน่วยงานรัฐ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ

・เพื่อรับชำระค่าสินค้าและบริการ

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการจัดเก็บ

・ชื่อ นามสกุล

・อายุ

・เพศ

・ที่อยู่

・หมายเลขโทรศัพท์ / หมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัว

・ที่อยู่อีเมลล์

・รูปถ่าย

・หมายเลขสมาชิกและชื่อผู้ใช้งาน

・ภาพบันทึกกล้องวงจรปิด

・ประวัติการใช้จ่าย

・ข้อมูลการชำระเงิน เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัตรเครดิต

 

แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล จากตัวเจ้าของข้อมูล

 

ค. คุกกี้ s

เราใช้คุกกี้และเครื่องมือที่คล้ายกันเพื่อให้คำแนะนำสินค้า

เพื่อปรับปรุงบริการของเราให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อที่จะสามารถนำเสนอโฆษณาตามลักษณะการเยี่ยมชมของคุณ การใช้คุกกี้ในบางครั้งอาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล คุณสามารถปรึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวของเราได้

หากคุณต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและผู้ใช้ของเรา วิธีการใช้สิทธิ์ของคุณ หรือคำศัพท์ที่เราใช้เพื่ออ้างอิงไปยังเว็บไซต์ออนไลน์และหน้าร้าน นอกจากนี้เรายังอาจรวบรวมข้อมูลอื่น ๆ ที่อาจถูกเก็บรวบรวมผ่านทางเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตแบบดั้งเดิม และใช้ข้อมูลดังกล่าวในการวิเคราะห์

คุกกี้เป็นไฟล์ข้อความขนาดเล็กที่เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น หรือแพลตฟอร์มร้านค้าอื่น ๆ บนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ของคุณที่คล้ายคลึงกันที่มีข้อมูลการเยี่ยมชมและการใช้งานของคุณเสมือนป้ายระบุอุปกรณ์ของคุณ คุกกี้เป็นสิ่งจำเป็น เช่น เพื่อความสะดวกในการเยี่ยมชม และทำความเข้าใจว่าผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับแพลตฟอร์มอย่างไรเพื่อที่จะสามารถปรับปรุงแพลตฟอร์มให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในการนำเสนอโฆษณาตามความชอบของผู้ใช้ เช่นเดียวกับวัตถุประสงค์อื่น ๆ ตามรายละเอียดด้านล่างนี้

 

คุกกี้จะไม่ทำให้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ของคุณเสียหาย

คุกกี้เป็นส่วนสำคัญของการทำงานของแพลตฟอร์มของเรา เป้าหมายหลักของคุกกี้ของเราคือการทำให้ประสบการณ์เยี่ยมชมของคุณเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น ใช้เพื่อจดจำความชอบของคุณเมื่อเยี่ยมชม และในระหว่างการเยี่ยมชมในอนาคต นอกจากนี้เรายังใช้คุกกี้ของเราเพื่อปรับปรุงบริการ และแพลตฟอร์มของเราอย่างต่อเนื่อง และเพื่อนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมตามลักษณะการเยี่ยมชมของคุณ

ทั้งนี้ข้อมูลที่รวบรวมโดยคุกกี้ช่วยให้เราปรับปรุงแพลตฟอร์มของเราผ่านการประเมินมูลค่าและรูปแบบการใช้งาน (จำนวนการเข้าชม ส่วนที่มีการเข้าชมมากที่สุดเวลาที่เข้าชม ฯลฯ) เพื่อให้เข้าใจทางสถิติว่าผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับแพลตฟอร์มอย่างไรเพื่อปรับปรุงบริการของเราและเพื่อปรับปรุงแพลตฟอร์มให้ตรงกับความสนใจส่วนบุคคล

การค้นหาที่รวดเร็ว และอื่น ๆ บางครั้งพวกเราอาจใช้คุกกี้เพื่อรับข้อมูลที่ช่วยให้สามารถแสดงโฆษณาจากแพลตฟอร์มของเรา แพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม หรือวิธีการอื่น ๆ โดยขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ลักษณะการเยี่ยมชมของคุณ (สินค้าที่เยี่ยมชม สัดส่วนที่ปรึกษา ฯลฯ)

ไม่ว่ากรณีใด ๆ คุกกี้ที่เราใช้ไม่เคยจัดเก็บข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต ฯลฯ

เบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ให้คุณสามารถควบคุมที่จะยอมรับคุกกี้ หรือสามารถดาวน์โหลด “ส่วนขยาย” ของบุคคลที่สามที่ให้การควบคุมที่เฉพาะเจาะจงของคุกกี้ของคุณ การปฏิเสธการลบหรือการปิดกั้นคุกกี้เหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อประสบการณ์การใ

ใช้งานของคุณ และอาจกีดกันความสามารถในการใช้ฟังก์ชั่นหรือพื้นที่ทั้งหมดของเว็บไซต์ของเรา หากคุณต้องการลบคุกกี้ หรือหากคุณเปลี่ยนใจ โปรดดูการตั้งค่าของเบราว์เซอร์หรือหน้าตัวเลือกของคุณ หรือค้นหาคำแนะนำโดยใช้เครื่องมือค้นหาที่คุณชื่นชอบสำหรับการตั้งค่าเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตที่สำคัญ โปรดอ้างอิงที่ลิงค์เหล่านี้:

  • ของ Google Chrome
  • ซาฟารี
  • ไมโครซอฟท์เอดจ์
  • ไฟร์ฟ้อกซ์ Mozilla

เนื่องจากแอพพลิเคชั่นไม่ได้ทำงานบนบราวเซอร์ ดังนั้นวิธีการควบคุมการแชร์ข้อมูลร่วมกันจึงแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโทรศัพท์ รุ่นและซอฟต์แวร์ของคุณ ซอฟต์แวร์โทรศัพท์ที่พบมากที่สุดสองอย่างคือ iOS และ Android ที่มีเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถควบคุมสิ่งที่แชร์ร่วมกันผ่านแอพพลิเคชั่นในระดับปัจเจก

โปรดอ้างอิงการตั้งค่าของโทรศัพท์ของคุณเพื่อทำความเข้าใจว่ามีการควบคุมอะไรบ้างสำหรับคุณ

รายละเอียดของคุกกี้จากบุคคลที่สามและข้อมูลที่ได้รับจะถูกจัดการตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง

หากคุณต้องการยกเลิกการรับส่งโฆษณาผ่านคุกกี้ของหน่วยงานภายนอกโปรดยกเลิกการรับส่งโฆษณาจากเว็บไซต์ของบริษัทที่เกี่ยวข้องด้านล่าง :

  • กูเกิลอนาลิติกส์
  • สาย
  • เมตา
  • Shopify

ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในแพลตฟอร์มของคุกกี้จะถูกใช้โดยพวกเราและบุคคลที่สามที่เสนอเฉพาะเทคโนโลยีที่จำเป็นเพื่อใช้บริการ (เช่น Cookie, Pixels, ฯลฯ) ซึ่งถูกใช้และจัดการโดยหน่วยงานภายนอกที่ให้บริการแก่เรา และมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะปรับปรุงบริการของเราและประสบการณ์ของผู้ใช้เมื่อเยี่ยมชมบนแพลตฟอร์มของเรา

ข้อมูลเพิ่มเติมในการตั้งค่าคุกกี้มีอยู่บนแพลตฟอร์มของเราตลอดเวลา สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณร่วมกับบุคคลที่สาม และข้อมูลที่อยู่ภายใต้การถ่ายโอนข้อมูลระหว่างประเทศ โปรดอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของเราที่อยู่บนแพลตฟอร์มของเรา และนโยบายความเป็นส่วนตัว การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สามได้ที่แพลตฟอร์มของพวกเขา

รถเข็น
Scroll to Top